ข้อดีและข้อเสียที่ไม่ควรมองข้ามของการใช้พลาสเตอร์แก้ปวด

ไอเทมยอดนิยมที่หลายคนเลือกหาซื้อมาใช้ เพื่อจัดการกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกายแบบไม่รุนแรง คงเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกจากพลาสเตอร์แก้ปวด และด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปที่หาซื้อได้ง่าย ผู้ใช้งานจึงควรทราบถึงข้อดีและข้อเสียที่ไม่ควรมองข้ามของพลาสเตอร์แก้ปวดว่ามีเรื่องใดบ้าง เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เราใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ไม่รอช้า เราขอชวนคุณผู้อ่านไปพบกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับไอเทมยอดนิยมนี้ให้มากขึ้น ไปติดตามกันได้เลย

ข้อดีที่ควรรู้

พลาสเตอร์แก้ปวด หรือแผ่นแปะแก้ปวด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกายแบบไม่รุนแรง และใช้จัดการกับอาการปวดตรงบริเวณผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นต้นคอ บ่า ไหล่ และแผ่นหลัง โดยหลักการทำงานของผลิตภัณฑ์นั้นไม่ซับซ้อน เพราะเมื่อแปะพลาสเตอร์แก้ปวดลงไป ตัวยาจากแผ่นพลาสเตอร์จะซึมลงสู่ชั้นผิวหนังไปยังกล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดเมื่อย เพื่อบรรเทาอาการปวดได้อย่างตรงจุด

อีกหนึ่งข้อดีที่ผู้ใช้งานควรรู้เกี่ยวกับพลาสเตอร์แก้ปวด คือเรื่องของสูตรผลิตภัณฑ์ที่ให้เลือกใช้งานตามลักษณะอาการปวด โดยปัจจุบันไอเทมนี้มีจำหน่ายด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ แผ่นแปะแก้ปวดสูตรร้อน ที่มาพร้อมกับสรรพคุณโดนใจใครหลายคน เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น เหมาะกับการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเป็นโรคที่พบได้มากในกลุ่มผู้นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า 6 - 8 ชั่วโมง อีกทั้งพลาสเตอร์แก้ปวดสูตรดังกล่าวยังช่วยลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง ลดอาการปวดหลัง อาการเคล็ดขัดยอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด ไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ในขณะเดียวกันยังมีไอเทมที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด นั่นคือพลาสเตอร์แก้ปวดสูตรเย็น เหมาะกับการบรรเทาอาการปวดเฉียบพลันที่เกิดจากอาการตึง และเคล็ดขัดยอกหลังเล่นกีฬา หากคนรักการออกกำลังกายเลือกใช้ไอเทมพลาสเตอร์แก้ปวดสูตรนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ข้อดีของพลาสเตอร์แก้ปวดที่ใครหลายคนอาจคาดไม่ถึง และคิดว่าไม่สำคัญ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างมาก คือเราสามารถติดพลาสเตอร์แก้ปวดบริเวณที่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้เรียบเนียนไปกับผิวหนังที่เปิดโล่ง ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานหมดกังวลได้เลยว่าแผ่นแปะแก้ปวดจะเลื่อนหลุดจนอาจทำให้รู้สึกรำคาญ ช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมระหว่างวัน ไม่ว่าจะนั่งทำงาน หรือเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัว เพราะไอเทมชิ้นนี้มีความยืดหยุ่นสูง และยังปลอดภัยอีกด้วย

ข้อเสียที่ไม่ควรมองข้าม

แม้จะเป็นไอเทมที่ดูใช้งานง่าย และไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่เราควรใช้พลาสเตอร์แก้ปวดในปริมาณและระยะเวลาตามที่ระบุบนฉลาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราควรใช้แผ่นแปะในปริมาณไม่เกิน 2 - 3 แผ่นต่อวัน อีกทั้งการใช้งานแต่ละครั้งควรหลีกเลี่ยงการติดแผ่นแปะบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล และรอยถลอก เนื่องจากอาจทำให้บาดแผลแย่ลง หรือเกิดอาการติดเชื้อได้

สรุป

หากเราเลือกใช้งานพลาสเตอร์แก้ปวดในสูตรและปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้การบรรเทาปวดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ มองหาผลิตภัณฑ์พลาสเตอร์แก้ปวดจาก Counterpain ที่มีจำหน่ายทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็นให้เลือกใช้งาน หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านขายยาทั่วไป หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://counterthepain.com/

ใบอนุญาตเลขที่ ฆท. 62/2566