ถึงเวลาปรับพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นแปะแก้ปวด

รูปแบบกิจวัตรและพฤติกรรมการทำงานในชีวิตประจำวันของคนเราที่ไม่เหมาะสม ย่อมส่งผลต่ออาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อตามร่างกายไม่มากก็น้อย ซึ่งทำให้หลายคนเลือกใช้แผ่นแปะแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดแบบไม่รุนแรงกับร่างกาย อย่างไรก็ตาม จะดีกว่าไหมหากเราหันมาปรับพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นแปะแก้ปวดอย่างถาวร 

ดังนั้น วันนี้เราจึงขอหยิบเอาเคล็ดลับการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เหมาะสมมาฝากทุกคน รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลย

สังเกตพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้

หลายคนอาจไม่ได้สังเกตพฤติกรรมการทำงานและใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง ว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้​​แผ่นแปะแก้ปวดได้ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้น ได้แก่ การปรับความสูงของโต๊ะทำงานที่ไม่พอดี ซึ่งอาจมีความสูงหรือต่ำจนเกินไป ทำให้เราต้องก้มหรือเงยหน้าตลอด ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยที่บริเวณคอและบ่า จนต้องใช้แผ่นแปะแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดเบื้องต้น

การวางตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์ไม่ตรงกับระดับสายตา เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าดวงตา เวียนศีรษะ บางรายหนักถึงขั้นปวดตึงลามไปถึงต้นคอและแผ่นหลัง กลายเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม จนต้องใช้ตัวช่วยอย่างแผ่นแปะแก้ปวด เพื่อรักษาอาการเบื้องต้น

นอกจากนี้ ในสุภาพสตรีที่ต้องทำงานพร้อมกับใส่ส้นสูงยืนหรือเดินตลอดทั้งวัน ก็อาจเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาและน่องได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายกรณีอาจปวดตึงไปถึงบริเวณสะโพก รวมถึงแผ่นหลังจนต้องใช้แผ่นแปะแก้ปวด เพื่อจัดการกับอาการดังกล่าวในเบื้องต้น

ปรับพฤติกรรมเสี่ยง

ผู้ที่ทำงานออฟฟิศควรปรับจอภาพให้อยู่ในระดับเดียวกับสายตา เพื่อปรับให้สรีระของร่างกายโดยเฉพาะช่วงศีรษะไม่ทำให้ต้องเงยหรือก้มตลอดเวลาทำงาน และควรสังเกตช่วงต้นคอให้อยู่ในแนวตั้งฉาก ไม่เกร็งไหล่ รวมถึงระยะปลายแขนถึงข้อศอกควรขนานไปกับแนวพื้น ในขณะเดียวกันแผ่นหลังให้แนบชิดกับพนักพิง อาจมีหมอนรองหลังช่วงล่าง เพื่อซัพพอร์ตแผ่นหลัง เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องใช้แผ่นแปะแก้ปวดอีกต่อไป

สำหรับสุภาพสตรีที่จำเป็นต้องใส่ส้นสูงในเวลาทำงาน อาจหารองเท้าส้นเตี้ยที่ซัพพอร์ตข้อเท้าเป็นพิเศษมาใส่สลับระหว่างวัน ก็จะช่วยลดอาการปวดตึงได้เป็นอย่างดี และเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นแปะแก้ปวดได้อีกด้วย

สรุป

นอกจากการสังเกตและปรับพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นแปะแก้ปวดแล้ว เราควรหาเวลาผ่อนคลายอิริยาบถทั้งในระหว่างวันทำงาน และผ่านรูปแบบการออกกำลังกายหลังเลิกงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อทั้งร่างกายได้รับการยืดเหยียดอย่างเหมาะสม รวมถึงจะได้ไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป

เลือกซื้อแผ่นแปะแก้ปวดพกติดตัว เพื่อบรรเทาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อระหว่างวันทำงาน เลือกผลิตภัณฑ์แผ่นแปะแก้ปวดจาก Counterpain ที่มีทั้งสูตรร้อนและเย็น ใช้งานง่าย จัดการกับอาการปวดแบบไม่รุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านขายยาทั่วไป หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://counterthepain.com/ 

ใบอนุญาตเลขที่ ฆท. 62/2566